คำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตายแล้ว จึงจะขอเป็นผู้จัดการมรดกได้ แต่การจะขอตั้งผู้จัดการมรดกจะต้องมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก ผู้ที่มีสิทธิจะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก คือ ทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกที่มีสิทธิรับมรดก เช่น บุตร บิดา มารดา คู่สมรสของเจ้ามรดก ผู้รับพินัยกรรมของเจ้ามรดก หรืออาจเป็นบุคคลภายนอก ผู้มีส่วนได้เสียก็ได้ เช่น เจ้าของร่วมในทรัพย์สินของเจ้ามรดก หรือพนักงานอัยการ
ผู้ที่จะเป็นผู้จัดการมรดก ต้องบรรลุนิติภาวะแล้ว และไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ และไม่เป็นบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย
การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ต้องยื่นคำร้องที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลนั้นในขณะถึงแก่ความตายแต่ในกรณีที่เจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตอำนาจศาล
ผู้จัดการมรดก เป็นตัวแทนของทายาททั้งหมด มีหน้าที่ในการรวบรวมทรัพย์มรดก แบ่งให้กับทายาท เช่น เปลี่ยนชื่อกรรมสิทธิ์ในที่ดินจากชื่อผู้ตายให้เป็นชื่อของทายาท การเบิกเงินในบัญชีของผู้ตายจากธนาคารแล้วมาแบ่งปันให้ทายาท เปลี่ยนชื่อจากไฟแนนซ์ที่เป็นชื่อของผู้ตายเป็นชื่อของทายาท ฯลฯ (จัดการโอนทรัพย์สินทั้งหมดของผู้ตาย ให้ทายาทหรือปู้มีส่วนได้เสีย) ผู้จัดการมรดก ต้องชำระหนี้กองมรดกให้เสร็จสิ้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้ ทั้งมีอำนาจในการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ต่อผู้ที่กระทำความเสียหายแก่กองมรดกด้วย
- ผู้จัดการมรดก จะตั้งขึ้นโดยพินัยกรรม ซึ่งผู้ทำพินัยกรรมกำหนดไว้ หรือ จะตั้งขึ้นโดยคำสั่งศาล เมื่อมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก โดยผู้ทำพินัยกรรม หรือ ศาล อาจกำหนดจำนวนผู้จัดการมรดกได้ตามที่เห็นสมควร ในกรณีที่มีผู้จัดการมรดกหลายคน ผู้จัดการมรดกทั้งหมดต้องจัดการร่วมกันโดยเสียงข้างมาก
- ผู้จัดการมรดก มีสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดโดยทั่วไป ในฐานะผู้แทนตามกฎหมายของทายาท กับมีสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดโดยเฉพาะที่กฎหมายหรือพินัยกรรมกำหนดไว้เป็นพิเศษด้วย
- ผู้จัดการมรดก ต้องจัดการ รวบรวม แบ่งปัน ทรัพย์มรดก และชำระหนี้กองมรดกให้เสร็จสิ้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้
คำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หลักกฎหมาย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 บัญญัติว่า
“ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) เมื่อเจ้ามรดกตาย ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรมได้สูญหายไป หรืออยู่นอกราชอาณาเขต หรือเป็นผู้เยาว์
(2) เมื่อผู้จัดการมรดกหรือทายาทไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจที่จะจัดการ หรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการ หรือในการแบ่งปันมรดก
(3) เมื่อข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ไม่มีผลบังคับได้ด้วยประการใด ๆ
การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ถ้ามีข้อกำหนดพินัยกรรม ก็ให้ศาลตั้งตามข้อกำหนดพินัยกรรม และถ้าไม่มีข้อกำหนดพินัยกรรมก็ให้ศาลตั้งเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์ และโดยคำนึงถึงเจตนาของเจ้ามรดก แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร”
บุคคลที่จะเป็นผู้จัดการมรดกได้ ต้องเป็นบคคลที่กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 บัญญัติว่า
“บุคคลต่อไปนี้จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้
(1) ผู้ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
(2) บุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
(3) บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย”
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 บัญญัติว่า
“คำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดกให้เสนอต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตาย
ในกรณีที่เจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร ให้เสนอต่อศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตศาล“
- การเป็นผู้จัดการมรดกเริ่มเมื่อบุคคลนั้นยอมรับเป็นผู้จัดการมรดกในกรณีที่เป็นผู้จัดการมรดกที่ตั้งโดยพินัยกรรม หรือเมื่อถือว่าได้ทราบคำสั่งศาลในกรณีที่เป็นผู้จัดการมรดกที่ตั้งโดยคำสั่งศาล
- การเป็นผู้จัดการมรดกย่อมสิ้นสุดลงเมื่อการจัดการมรดกเสร็จสิ้นลง หรือผู้จัดการมรดกลาออกโดยได้รับอนุญาตจากศาล หรือถูกศาลสั่งถอน หรือผู้จัดการมรดกตาย หรือตกเป็นผู้ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดก
หลักการบรรยาย
- ผู้ร้องมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสียกับผู้ตายอย่างไร
- ผู้ตายถึงแก่ความตายที่ไหน เมื่อไร
- ขณะถึงแก่ความตาย ผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด
- ผู้ตายมีทายาทกี่คน ใครบ้าง
- ผู้ตายทำพินัยกรรมไว้หรือไม่ และ มีทรัพย์มรดกอะไรบ้าง
- มีเหตุขัดข้องอย่างไรในการจัดการมรดก
- ผู้ที่จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้จัดการมรดก
- ขอให้ตั้งใครเป็นผู้จัดการมรดก
- คำลงท้าย
ตัวอย่างการบรรยาย
นางสอง มกรา ร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของ นายเอก มกรา ผู้ตาย
ข้อ 1 ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายเอก มกรา ผู้ตาย จดทะเบียนสมรสกันที่ สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2520 รายละเอียดปรากฏตามสำเนาใบสำคัญการสมรส เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 1
ข้อ 2 ผู้ตายถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2558 โดยแพทย์ลงความเห็นว่า หัวใจวายเนื่องจากเส้นเลือดอุดตันที่โรงพยาบาลสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา รายละเอียดปรากฏตามรายงานของแพทย์และสำเนาใบมรณบัตร เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 2 และ 3
ข้อ 3 ขณะถึงแก่ความตายผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 1 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาปรากฏตามสำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 4
ข้อ 4 ผู้ตายเป็นบุตรของนายหนึ่ง มกรา และนางโท มกรา รายละอียดปรากฏตามสำเนาสูติบัตร เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 5 บิดาของผู้ตายได้ถึงแก่ความตายไปก่อนแล้วปรากฏตามสำเนาใบมรณบัตร เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 6
ผู้ร้องกับผู้ตายมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ นายสาม มกรา รายละเอียดปรากฏตามสำเนาสูติบัตร เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 7
ขณะถึงแก่ความตาย ผู้ตายจึงมีทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกรวม 3 คน คือ นางโท มกรา มาดา นายสาม มกรา บุตร และผู้ร้อง รายละเอียดปรากฏตามบัญชีเครือญาติ เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 8
ข้อ 5 ก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ผู้ตายมีทรัพย์มรดกดังนี้คือ
- บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสงขลา บัญชีเลขที่ 100000000 จำนวนเงิน 1,000,000 บาท รายละเอียดปรากฏตามสำเนาสมุดคู่ฝากธนาคาร เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 9
- กรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดเลขที่ 1 เลขที่ดิน 2 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เนื้อที่ 60 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ 1 รายละเอียดปรากฏตามสำเนาโฉนดที่ดิน เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 10
ข้อ 6 ผู้ร้องมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก กล่าวคือ หลังจากผู้ตายถึงแก่ความตายผู้ร้องได้ไปติดต่อธนาคารและเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อขอถอนเงินในบัญชีธนาคารของผู้ตายและจดทะเบียนโอนที่ดินแบ่งให้แก่ทายาทแต่ไม่อาจทำได้เนื่องจากพนักงานธนาคารและเจ้าพนักงานที่ดินแจ้งว่า ต้องให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกเสียก่อนจึงจะดำเนินการให้ได้
ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถและไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
ด้วยเหตุดังกล่าวดังได้ประทานกราบเรียนมาข้างต้น ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายหนึ่ง มกรา ผู้ตาย เพื่อให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายต่อไป
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
กรณีทำคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ใช้แบบพิมพ์ศาล หมายเลข 7
07 แบบฟอร์มคำร้อง Ms Word - [คำร้อง/คำขอ/คำแถลง]
07 แบบฟอร์มคำร้อง pdf - [คำร้อง/คำขอ/คำแถลง]
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคทฤษฎี รุ่นที่ 63
กำหนดสอบวันที่ 4 สิงหาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคปฏิบัติ รุ่นที่ 61
กำหนดสอบวันที่ 19 พฤษภาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความ สำหรับผู้ผ่านการฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ครั้งที่ 1/2567
กำหนดสอบวันที่ 10 มีนาคม 2567
______________________________
ข้อสังเกต
1.การตั้งผู้จัดการมรดก ผู้ร้องอาจขอให้ศาลตั้งผู้ร้องหรือบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดกก็ได้ และอาจตั้งผู้จัดการมรดกคนเดียวหรือหลายคนก็ได้
ถ้าขอให้ตั้งบุคคลอื่นเช่น นายดำ เป็นผู้จัดการมรดก ต้องบรรยายคำร้องว่าบุคคลผู้นั้นคือ นายดำ (ไม่ใช่ผู้ร้อง) ไม่ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้จัดการมรดก คือ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นคนล้มละลาย เป็นต้น
2.ขณะถึงแก่ความตาย ผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจของศาลใด ต้องยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกที่ศาลนั้น
3.เหตุขัดข้องในการจัดการมรดก เป็นสาระสำคัญของคำร้อง ถ้าหลงลืมไม่บรรยาย ศาลยกคำร้องโดยไม่ต้องไต่สวนคำร้อง
เหตุขัดข้อง เช่น ไปที่ดิน เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องยื่นคำร้องขอจัดการมรดกก่อน ถึงจะสามารถเปลี่ยนชื่อกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ตายไปเป็นของทายาทได้ หรือ ไปที่ธนาคาร ธนาคารบอกว่าต้องไปยื่นคำร้องขอจัดการมรดกก่อน ถึงจะเบิกเงินในบัญชีธนาคารของผู้ตายได้ หรือไปที่ไฟแนนซ์ ไฟแนนซ์บอกว่าต้องไปยื่นคำร้องขอจัดการมรดกก่อนถึงจะทำเรื่องขอผ่อนรถต่อจากผู้ตายได้ เป็นต้น
4.ในการตอบข้อสอบลงชื่อ “ผู้เรียง/ผู้เขียน” ส่วนในทางปฏิบัติลงชื่อ “ผู้เรียง/ผู้พิมพ์”
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2518
คำพิพากษาย่อสั้น
คดีร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก มิใช่เป็นการฟ้องคดีเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของกองมรดก ไม่อยู่ในอายุความ 1 ปี แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754
คำพิพากษาย่อยาว
ผู้ร้องทั้งสองคนยื่นคำร้องว่า นางเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยว เจ้ามรดกได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2514 มิได้ทำพินัยกรรมหรือการจัดการมรดกไว้ นางเฮี๊ยะไม่มีทายาทอื่น คงมีแต่ทายาทชั้นหลาน ผู้ร้องทั้งสองเป็นหลานอยู่ในฐานะทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของนายเฮี๊ยะ โดยเหตุที่จะต้องรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันกันในระหว่างทายาท ผู้ร้องทั้งสองไม่สามารถดำเนินการได้โดยลำพัง จึงขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของนายเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยว
นายซ่งเง็ก แซ่เอี๊ยว ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นหลาน ผู้ร้องทั้งสองชอบเล่นการพนัน มีหนี้สินล้นพ้นตัว มิได้มีคุณสมบัติต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1718 ทรัพย์มรดกของนางเฮี๊ยะอยู่ในความครอบครองของผู้คัดค้านตลอดมาเป็นเวลาเกิน 1 ปี พ้นระยะเวลาที่ผู้ร้องทั้งสองและทายาทอื่นจะใช้สิทธิเรียกร้องแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนางเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยว ผู้ตายมีคุณสมบัติและสมควรเป็นผู้จัดการมรดกได้ การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าร้องเกิน 1 ปีไม่ได้ กรณีนี้ไม่ใช่เป็นการฟ้องคดีมรดกไม่อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754 คดีไม่ขาดอายุความ มีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของนายเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยวร่วมกัน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องทั้งสองได้ร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้ร้องทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย การร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกนั้นมิใช่เป็นการฟ้องคดีเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของกองมรดก ไม่อยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 คดีของผู้ร้องจึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก (ต้นฉบับและสำเนาเอกสารอย่างละ 4 ชุด)
1. ทะเบียนบ้านของผู้ตาย และทะเบียนบ้านของผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก กรณีผู้ร้องขอฯ อยู่คนละบ้านกับผู้ตาย
2. ใบมรณบัตรของผู้ตาย
3. ใบมรณบัตรของบิดามารดา กรณีบิดามารดาของผู้ตาย (เจ้ามรดก) ถึงแก่ความตายก่อนแล้ว
4. ทะเบียนสมรสของสามีหรือภริยาของผู้ตาย
5. ทะเบียนสมรสพร้อมด้วยทะเบียนการหย่าของภริยาของผู้ตาย
6. ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัวชื่อสกุล ของทายาทและผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย
7. สูติบัตรของบุตรของผู้ตาย กรณีบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือไม่สามารถให้ความยินยอมได้
8. บัตรประจำตัวข้าราชการ บัตรประจำตัวประชาชน ของผู้ร้องขอฯ
9. พินัยกรรมของผู้ตาย
10. หนังสือให้ความยินยอมในการร้องขอจัดการมรดกและบัญชีเครือญาติ
11. เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตาย เช่น โฉนดที่ดิน และสัญญาจำนอง ทะเบียนรถจักรยานยนต์ ทะเบียนรถยนต์ อาวุธปืน สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ใบหุ้น และอื่นๆ เป็นต้น
12. บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้ให้ความยินยอมทุกคน
13. คำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก ในกรณีที่เคยยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว แต่ผู้จัดการมรดกถึงแก่ความตาย
- เอกสารทุกรายการต้องรับรองสำเนาถูกต้อง
- กรณีผู้ร้องลงชื่อไม่ได้ จึงพิมพ์ลายนิ้วมือแทน ให้มีพยานลงชื่อรับรองอย่างน้อยสองคน
- ห้ามขีดคร่อมเอกสารที่รับรอง
__________________________________________
หนังสือให้ความยินยอมในการร้องขอจัดการมรดก
____________________________________
บัญชีเครือญาติ
หนังสือให้ความยินยอมในการร้องจัดการมรดก
บัญชีเครือญาติ
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคทฤษฎี รุ่นที่ 63
กำหนดสอบวันที่ 4 สิงหาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคปฏิบัติ รุ่นที่ 61
กำหนดสอบวันที่ 19 พฤษภาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความ สำหรับผู้ผ่านการฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ครั้งที่ 1/2567
กำหนดสอบวันที่ 10 มีนาคม 2567
______________________________
ติวสอบทนายความ
การไต่สวนคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคทฤษฎี รุ่นที่ 63
กำหนดสอบวันที่ 4 สิงหาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคปฏิบัติ รุ่นที่ 61
กำหนดสอบวันที่ 19 พฤษภาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความ สำหรับผู้ผ่านการฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ครั้งที่ 1/2567
กำหนดสอบวันที่ 10 มีนาคม 2567
______________________________
แบบพิมพ์ศาลที่ออกสอบบ่อย และใช้ฝึกในการสอบใบอนุญาตให้เป็นทนายความภาคปฏิบัติ
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(4)-คำฟ้อง
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(5)-คำขอท้ายคำฟ้องแพ่ง
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(6)-คำขอท้ายคำฟ้องอาญา
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(7)-คำร้อง-คำแถลง-คำขอ
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(9)-ใบแต่งทนายความ
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(10)-ใบมอบฉันทะ
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(11)-คำให้การจำเลย
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(15)-บัญชีพยาน
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(15ทวิ)-บัญชีพยาน
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(29)-สัญญาประนีประนอมยอมความ
ใช้ฝึกทนายความภาคปฏิบัติ-(40ก)
ชีตสรุป แบบฝึกหัด สอบทนายความ ภาคทฤษฎี
ทบทวน สรุปย่อ สอบทนายความ ภาคปฏิบัติ
[…] คำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก […]
หนังสือให้ความยินยอมของทายาท และ บัญชีเครือญาติ ต้องแนบมาด้วย
[…] คำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก (Visited 81 times, 4 visits today) Tagged ยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ระบบอิเล็กทรอนิกส์ e Filling of the Heritage Management Csae […]
อยากได้แบบฟอร์มคำร้องตั้งผู้จัดการมรดก ตามพินัยกรรม ขอบคุณครับ
ใช้แบบฟอร์มหมายเลข 7 ที่ใช้ทั่วไปได้เลยครับ
ดาวโหลดแบบฟอร์ม “คำร้อง คำขอ คำแถลง”
ผู้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ต้อง เป็นทนายความ เท่านั้นมั้ยครับ
หรือคนบุคลทั่วไป ทุกอาชีพ สามารถ ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ และยื่นเรื่องเองได้
ยื่นได้เอง ไม่จำเป็นต้องเป็นทนายความครับ
สอบถามครับ
ในกรณี บิดามาร เจ้ามรดก เสียไปนานแล้ว แต่ไม่มีใบมรณะบัตรต้องเขียน คำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกอย่างไร
กรณีนี้มีทางออกหลายทาง หลายกรณี ซึ่งแต่ละกรณี ก็มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยเงื่อนไขข้อเท็จจริง จึงควรนำเรื่องเข้าไปนั่งคุยในสำนักงานทนายความเพื่อให้ทนายความสอบถามข้อเท็จจริงในรายละเอียดของปัญหา จึงจะได้วิธีการและนำไปเขียนคำร้องได้ครับ
จำเป็นหรือไม่คะที่ต้องระบุทรัพย์สินทั้งหมดของผู้ตายค่ะ เพราะบางอย่างหาเอกสารไม่เจอ และบางอย่างก็ไม่ทราบค่
กองมรดกของผู้ตาย มิไช่จำกัดอยู่เพียงแต่ทรัพย์สินของผู้ตายเท่านั้น หากยังรวมถึงอย่างอื่นอีก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 1600 ซึ่งบัญญัติว่า “ภายไต้บังคับของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ กองมรดกของผู้ตายได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตลอดทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่างๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้”
– เมื่อบุคคลใดตายทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ย่อมเป็นมรดกของผู้ตาย ส่วนทรัพย์สินได้แก่อะไรนั้นต้องพิจารณาจากบทบัญญัติว่าด้วยทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 137 และ ทรัพย์สิน มาตรา 138 เช่น บ้านเรือน รถยนต์ ที่ดิน เครื่องใช้ต่างๆ ของผู้ตาย เป็นต้น อย่างไรก็ดี ต้องพิจารณาจากบทบัญญัติในเฉพาะเรื่องไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับ ทรัพย์สิทธิ์ เช่น กรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง ภาระจำยอม และสิทธิเหนือพื้นดินดังนี้ หากผู้ตายมีอยู่ย่อมถือว่าเป็นมรดกของผู้ตาย ส่วนดอกผลของกองมรดกซึ่ง งอกเงยจากกองมรดก ตราบใดที่ยังไม่แบ่งปันให้ทายาท ก็ยังเป็นทรัพย์สินในกองมรดกตกทอดแก่ทายาทต่อไป
ดังนั้น เมื่อท่านรู้ว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่เป็นของผู้ตายซึ่งเป็นเจ้ามรดก จึงจำเป็นต้องระบุทั้งหมด
แต่การยื่นขอตั้งผู้จัดการมรดก และไม่ได้ใส่ทรัพย์ทุกรายการถือเป็นการปิดบังทรัพย์ ทำให้ถูกกำจัดไม่ให้รับมรดกหรือไม่?
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2558
ไม่มีบทบัญญัติตามกฎหมายใดบัญญัติให้คำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกจะต้องระบุถึงทรัพย์มรดกของผู้ตายทั้งหมด การที่จำเลยยื่นคำร้องขอโดยไม่ได้ระบุที่ดินอีก 5 แปลง ไว้ในบัญชีทรัพย์มรดก ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการปิดบังทรัพย์มรดก อันเป็นเหตุให้จำเลยต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดกของผู้ตาย
จึงควรระบุว่า “ทรัพย์มรดกของผู้ตาย เท่าที่ตรวจพบ มีดังต่อไปนี้ …. ”
การถูกกำจัด มิให้รับมรดกมีได้สองกรณีคือ
1.เป็นผู้ยักย้ายหรือปิดบังทรัพย์มรดก ตามมาตรา 1605
2.เป็นผู้ถูกกำจัดมิให้รับมรดก ฐานเป็นผู้ไม่สมควร ตามมาตรา 1606
กองมรดกของผู้ตาย ได้แก่ ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ บรรพ 6 มาตรา 1600 คืออะไบ้างค๊ะ
พิจารณาได้ดังนี้
1.กรณีที่ถือว่าเป็นกองมรดกของผู้ตาย ได้แก่
(1).ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน ห้องแถว อาคารบ้านเรือน หรือสังหาริมทรัพย์ เช่น รถจักรยาน โค กระบือ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านของผู้ตาย เป็นต้น
(2).สิทธิทั้งหลายซึ่งผู้ตายมีอยู่ หมายความว่าสิทธิต่างๆ เช่น สิทธิในเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิเรียกร้องต่างๆ เช่น สิทธิตามสัญญากู้ยืมเงิน สิทธิไถ่ถอนทรัพย์สินที่ฝากขาย เหล่านี้ถือว่าเป็นกองมรดกของผู้ตายเช่นกัน
(3).หน้าที่ คือการที่จะต้องปฏิบัติการชำระหนี้อันมิไช่หน้าที่ต้องทำโดยใช้ความสามารถเฉพาะตัว เช่น หน้าที่โอนที่ดินตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ผู้ตายทำไว้ หน้าที่ไปจดทะเบียนโอนขายที่ดินซึ่งผู้ตายทำไว้ เป็นต้น
(4).ความรับผิด ได้แก่ ความรับผิดในความเสียหายที่ผู้ตายได้ก่อให้เกิดแก่บุคคลอื่น เช่น กระทำละเมิดผู้อื่น หรือกรณีที่ผู้ตายไม่ชำระหนี้ หรือผิดสัญญา เป็นต้น
2.กรณีที่ไม่ถือว่าเป็นมรดกของผู้ตาย ได้แก่
(1).สิทธิ หน้าที่และความรับผิดต่างๆซึ่งตามกฎหมายแล้วเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ กรณีนี้ต้องพิจารณาจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายเป็นเรื่องๆไปว่ามีความมุ่งหมายให้เป็นเรื่องเฉพาะตัวของบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือไม่ เช่น สัญญาเช่าทรัพย์ธรรมดา การจัดการมรดก สิทธิในการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ เหล่านี้เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ตาย เมื่อตายไปแล้ว ไม่เป็นมรดกที่จะตกทอดไปยังทายาท
(2).สิทธิ หน้าที่และความรับผิด ซึ่งโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ หมายถึง ลักษณะของสิทธิ หน้าที่และความรับผิดนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล เช่น สิทธิตามสัญญาหมั้นที่จะเข้าทำการสมรส เป็นต้น
เนื้อหา เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณทนาย คอมพิวเตอร์
ยินดีอย่างยิ่งครับ
กรณีทายาทโดยธรรมลำดับที่3 มีอายุมากแล้วและต้องการให้หลานชายเป็นผู้จัดการมรดกของเจ้ามรดกซึ่งเสียชีวิตไปแล้วโดยครองสถานะโสดไม่เคยสมรสทั้งในสมรสและนอกสมรส และไม่มีบุตรผู้สืบสันดาน จนกระทั่งถึงแก่ความตาย ไม่ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ หลานชายของทายาทโดยธรรมลำดับที่3 สามารถรับมอบอำนาจจากทายาทโดยธรรมเพื่อร้องต่อศาลให้แต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้หรือไม่ ถ้าได้ต้องใช้แบบฟอร์มอะไรบ้างครับ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 1713 ใช้คำว่า “ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสีย ….. ” … // จึงต้องบรรยายให้ศาลทราบว่า “หลานชายของทายาทโดยธรรมลำดับที่3” เกี่ยวข้องกับเจ้ามรดกอย่างไร มีส่วนได้เสียอย่างไร และมีคุณสมบัติครบ ไม่ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 1718 แบบฟอร์มศาลที่ต้องใช้คือ เขียนบรรยายคำร้องในแบบฟอร์มศาลหมายเลข 7 ครับ