Tips : ผู้เช่าซื้อจะต้องค้างชำระ 3 งวดติดต่อกัน และอีก 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกกล่าวให้ชำระหนี้ รวมทั้งสิ้นเป็น 4 เดือน แล้วผู้เช่าซื้อไม่ชำระ จึงถือว่าสัญญาเลิกกัน ไฟแนนซ์จึงจะมีสิทธิสามารถติดตามยึดรถกลับคืนได้

Tips : ผู้เช่าซื้อสามารถบอกเลิกสัญญาเมื่อไรก็ได้ แต่ต้องส่งมอบรถยนต์คืนแก่ผู้ให้เช่าซื้อ พร้อมชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระให้ครบถ้วน ถ้ายังไม่คืนรถ ถึงแม้จะบอกเลิกสัญญา ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 573 (คำพิพากษาฎีกาที่ 3149/2530)

วิธีการที่ต้องดำเนินการ

เคสนางสมศรีนี้โทรมาปรึกษาทนายความเมื่อได้รับคำตอบจากไฟแนนซ์ให้รอนัดคืนรถ ค้างอยู่ 2 งวด

ทนายความจึงให้นางสมศรี หาเงินโอนค่างวดจ่ายบริษัทไฟแนนซ์ให้ได้อย่างน้อย 1 งวด นางสมศรีรีบโอนชำระก่อน ตัวแทนมารับรถ 30 นาที และไปส่งมอบรถให้ตัวแทนไฟแนนซ์รับรถไปและตรวจสอบการส่งมอบ มีการเซ็นเอกสารครบถ้วน

วิธีนี้ทำให้เวลาการค้างชำระไม่ถึง 3 เดือน เพราะจ่ายงวดหนึ่งไปแล้ว (ที่ทนายความแนะนำ) ไม่เข้าข้อกฎหมายที่บริษัทไฟแนนซ์จะเรียกค่าขาดราคาจากเราได้ เนื่องจากยังไม่ผิดนัด 3 งวด

และเมื่อผู้เช่าซื้อได้ส่งมอบรถคืน ถือว่าสัญญาเลิกกัน

Tips : ไฟแนนซ์สามารถเรียกร้องได้ ในระหว่างที่รถยนต์อยู่ในความครอบครองของผู้เช่าซื้อ โดยนับตั้งแต่วันผิดนัดไปจนถึงวันที่ได้รับรถยนต์คืน (คำพิพากษาฎีกาที่ 1960/2545) และยังสามารถเรียกค่าขาดประโยชน์ได้อีก แต่ไม่ถือเป็นหนี้ค้างชำระ จึงไม่สามารถเรียกดอกเบี้ยได้ แม้สัญญาจะระบุไว้ก็ตาม (คำพิพากษาฎีกาที่3668/2532)

แต่จากนั้นไฟแนนซ์จะยังออกโนติสย้อนหลังมาทวงค่าเช่า และบอกเลิกสัญญากับผู้เช่าซื้อ และเรียกร้องให้ชำระราคารถทั้งหมด /ถ้าไม่ชำระจะนำรถออกขาย /มีส่วนต่าง ก็จะฟ้องกับผู้เช่า

เคสนี้ ไฟแนนซ์นำรถของนางสมศรีออกขายทอดตลาด เหลือส่วนต่าง 3แสนกว่า

แต่ทนายความได้ทำหลักฐาน ข้อโต้แยังไว้หมดแล้ว

และสุดท้าย มีการประนีประนอมยอมความ นางสมศรีทำสัญญายอมชำระเงินส่วนต่าง 40,000 บาท ไม่ต้องถึงสามแสน

ปิดจบครบบริบูรณ์

แฮ๊ปปี้ เอนดิ้ง

TGL Legal Team

ขอบคุณน้องเอก สำหรับข้อมูลตรงและรูปภาพประกอบค่ะ