คลังข้อสอบเก่า เนติบัณฑิต

(อาญา สมัยที่ 59)

 

การสอบข้อเขียนความรู้ชั้นเนติบัณฑิต ภาคหนึ่ง สมัยที่ 59 ปีการศึกษา 2549
กฎหมายอาญา กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน
กฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายปกครอง

วันอาทิตย์ 24 กันยายน 2549

คำถาม 10 ข้อ ให้เวลาตอบ 4 ชั่วโมง (14.00 น. ถึง 18.00 น.) ให้ยกเหตุผลประกอบคำตอบด้วย

 


ข้อ 4.  คุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ

ธงคำตอบ

คุณยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ

คำอธิบาย

...

คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง


คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 510/2530
คำพิพากษาย่อสั้น
การที่จำเลยตัดเลขหมายประจำแชชซีรถยนต์คันสีแดงออกแล้วตัดเอาหมายเลขประจำแชชซีของรถยนต์คันสีฟ้ามาเชื่อมต่อไว้แทน เมื่อหมายเลขประจำแชชซีรถยนต์คันสีฟ้าเป็นหมายเลขประจำรถยนต์ที่แท้จริง แม้จะนำมาติดกับรถยนต์คันอื่นแต่ไม่มีการขูดลบแก้ไข เปลี่ยนแปลงตัวอักษร หรือตัวเลขหมายแต่อย่างใด จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารเพราะความผิดฐานปลอมเอกสารนั้นจะต้องมีการปลอมแปลงเอกสารขึ้นทั้งฉบับหรือแต่บางส่วน หรือกระทำให้ข้อความหรือความหมายในเอกสารที่แท้จริงเปลี่ยนแปลงไป

คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปลอมเอกสารโดยตัดเอาแชชซีรถยนต์คันสีแดงหมายเลขทะเบียน 5ม - 8188 ช่วงที่มีตัวอักษรตัวเลข เอ็น 620-304483 อันเป็นเอกสารที่แท้จริงออกทิ้ง แล้วตัดเอาแชชซีรถยนต์คันสีฟ้าของเทศบางเมืองสมุทรปราการ หมายเลขทะเบียน น.0355 สมุทรปราการ ช่วงที่มีตัวอักษร ตัวเลข เอ็น 620 - เอ 82682 ออกแล้วนำไปต่อเชื่อมกับแชชซีของรถยนต์คันสีแดงหมายเลขทะเบียน 5ม - 8188 แทนเอกสารที่แท้จริงในช่วงที่ตัดทิ้งไปดังกล่าว การกระทำของจำเลยเป็นการทำปลอมขึ้น ซึ่งเอกสารเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารหมายเลขแชชซีของรถคันหมายเลขทะเบียน 5ม - 8188 ที่แท้จริง และจำเลยกับพวกได้ถอดเครื่องยนต์ของรถคันหมายเลขทะเบียน 5ม - 8188 ออกแล้วนำเครื่องยนต์ของรถคันหมายเลขทะเบียน น.0355 สมุทรปราการ มาติดตั้งใส่ไว้แทน และนำแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน น.0355 สมุทรปราการไปใส่แทนแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 5ม-8188 และพ่นเปลี่ยนสีรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 5ม-8188 จากสีแดงเป็นสีฟ้าแล้วนำส่งคืนเทศบาลเมืองสมุทรปราการเพื่อให้เทศบาลเมืองสมุทรปราการ นายทะเบียนยานพาหนะจังหวัดสมุทรปราการเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสภาพรถยนต์ และกรมตำรวจหลงเชื่อว่ารถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 5ม-8188 หมายเลขเครื่อง เจ 15-444308 หมายเลขแชชซี เอ็น620-304483 เป็นรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน น.0355 สมุทรปราการ หมายเลขเครื่อง เจ 15-829139 หมายเลขแชชซี เอ็น 620-82682 ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่เทศบาลเมืองสมุทรปราการ นายทะเบียนยานพาหนะจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสภาพรถยนต์และกรมตำรวจ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 จำคุก 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ว่าจำเลยตัดเอาแผ่นโลหะที่มีเลขหมายประจำแชชซีรถยนต์คันสีฟ้าของเทศบาลเมืองสมุทรปราการมาต่อเชื่อมแทนที่เลขหมายประจำแชชซีรถยนต์คันสีแดงที่จำเลยตัดออกไปก็ตาม แต่ความผิดฐานปลอมเอกสารนั้น จะต้องมีการปลอมแปลงเอกสารขึ้นทั้งฉบับ หรือแต่บางส่วนหรือกระทำให้ข้อความ หรือความหมายในเอกสารที่แท้จริงเปลี่ยนแปลงไป ในเรื่องนี้ได้ความว่า เลขหมายประจำแชชซีรถยนต์คันสีฟ้าของเทศบาลเมืองสมุทรปราการที่จำเลยนำมาต่อเชื่อมรถยนต์คันสีแดงเป็นหมายเลขประจำรถยนต์ที่แท้จริง แม้จะนำมาติดกับรถยนต์คันอื่นแต่ก็ไม่มีการขูดลบแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวอักษร ตัวเลขหมายประจำแชชซีแต่อย่างใด จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารดังโจทก์ฟ้อง
พิพากษายืน

ผู้พิพากษา
ชวลิต นราลัย
อภินย์ ปุษปาคม
ประวิทย์ ขัมภรัตน์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 3078/2525
คำพิพากษาย่อสั้น
การที่จำเลยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข น.0311พังงาซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ทางราชการออกให้แก่รถยนต์ของ ส. นำไปใช้ติดกับรถยนต์จำเลยซึ่งเป็นรถยนต์อีกคันหนึ่ง แม้จะโดยมีเจตนาแสดงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์ที่มีหมายเลขทะเบียน น.0311 พังงา ก็ตามเมื่อแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้แก่รถยนต์คันอื่น จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารราชการปลอม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1141/2523)

คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจนำรถยนต์ไม่เสียภาษีประจำปีรถยนต์ไปใช้ในถนนหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต และปลอมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลขน. 0311 พังงา อันเป็นเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการดังกล่าวนำไปติดกับรถยนต์ของจำเลย ซึ่งเป็นรถยนต์อีกคันหนึ่ง โดยมีเจตนาให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์หมายเลขทะเบียน น.0311 พังงาที่ถูกต้อง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, 91 พระราชบัญญัติรถยนต์พ.ศ. 2522 มาตรา 6, 59
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานใช้รถไม่เสียภาษีตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 6 ลงโทษปรับ ส่วนความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมนั้นไม่เป็นความผิด ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้นำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข ทะเบียน น. 0311 พังงา ซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ทางราชการออกให้แก่รถยนต์ของนายสมาน นำไปใช้ติดกับรถยนต์ของจำเลย ซึ่งเป็นรถยนต์อีกคันหนึ่งโดยมีเจตนาที่จะให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์ที่มีหมายเลขทะเบียน น. 0311 พังงาถูกต้อง และวินิจฉัยว่าสำหรับข้อหาฐานปลอมเอกสารนั้น เมื่อปรากฏว่าแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของกลางเป็นแผ่นป้ายทะเบียนที่แท้จริงซึ่งทางราชการออกให้แก่รถยนต์ของบุคคลอื่น จำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสาร และการที่จำเลยเอาแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์นั้น ซึ่งเป็นเอกสารราชการที่แท้จริงมาใช้กับรถยนต์ของจำเลยเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของจำเลยเป็นรถยนต์หมายเลขทะเบียน น. 0311 พังงา จำเลยไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1141/2523
พิพากษายืน

ผู้พิพากษา
อำนวย อินทุภูติ
สุทิน เลิศวิรุฬห์
เริ่ม ธรรมดุษฎี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 1141/2523
คำพิพากษาย่อสั้น
จำเลยเอาป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข ส.ฎ.00890 ของรถยนต์ยี่ห้อเฟียตมาติดใช้กับรถยนต์ของกลาง เมื่อป้ายทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นเอกสารแท้จริงที่ราชการทำขึ้นไม่ใช่เอกสารปลอม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารและการที่จำเลยนำป้ายทะเบียนนั้นมาใช้กับรถยนต์ของกลางเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์หมายเลขทะเบียน ส.ฎ.00890. จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม
จำเลยรู้ว่าหมายเลขประจำเครื่องยนต์ของกลาง 215173 เป็นเลขประจำเครื่องยนต์ปลอม แล้วจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปตรวจเครื่องยนต์แสดงว่ามีเลขหมายนั้นต่อเจ้าหน้าที่และนำไปขายแก่ผู้อื่น จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม แม้คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์ของห้าง ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลของ จ. แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าเลขจำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์คันอื่นข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า มีคนร้ายลักรถยนต์เก๋งยี่ห้อเฟียต หมายเลขเครื่องประจำรถ 0101444 หมายเลขทะเบียน ก.ท.ช - 6555 ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของ จ. ไป และจำเลยรับของโจรรถยนต์นั้น แล้วจำเลยปลอมเอกสารโดยขูดลบเลข 0101444 ของเครื่องรถยนต์ออกโดยตอกเลข 215173 ลงไปแทนและปลอมแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับติดรถยนต์ซึ่งเป็นเอกสารราชการกรมตำรวจ 2 แผ่น ใส่ตัวเลขและอักษรปลอม ส.ฎ.00890 ลงในแผ่นป้าย ความจริงแผ่นป้ายตัวเลขและอักษรดังกล่าวเจ้าหน้าที่แผนกรถยนต์ กรมตำรวจออกให้แก่ผู้อื่น จำเลยใช้เอกสารปลอมโดยนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ปลอมขึ้นมาติดกับรถยนต์ที่จำเลยรับไว้ขับไปตามถนน และขายรถยนต์แก่ จ. ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 357, 264, 265, 268 ริบป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมคืนรถยนต์ของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357, 265, 268 จำคุกตามมาตรา 357 สี่ปี จำคุกตามมาตรา 265, 268 สองปี ริบป้ายทะเบียนปลอม รถยนต์ของกลางคืนเจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ารถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์ที่ จ. เช่าซื้อไว้และถูกลักไป จึงลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้ สำหรับข้อหาฐานปลอมป้ายทะเบียนรถยนต์และใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมนั้น โจทก์ไม่มีพยานมาสืบว่าป้ายทะเบียนรถยนต์ ส.ฎ.00890 ที่นำมาใช้กับรถยนต์ของกลางเป็นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม ทั้งปรากฏว่าป้ายหมายเลขทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวเป็นเลขของรถยนต์ที่จำเลยซื้อไว้ จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำปลอมขึ้นใหม่อีก เชื่อได้ว่าจำเลยเอาป้ายรถยนต์หมายเลข ส.ฎ.00890 ของรถยนต์จำเลยมาติดใช้กับรถยนต์ของกลาง เมื่อป้ายทะเบียนรถยนต์หมายเลข ส.ฎ.00890 ไม่ใช่เอกสารปลอม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสาร และการที่จำเลยนำป้ายทะเบียนรถยนต์ซึ่งเป็นเอกสารราชการที่แท้จริงมาใช้กับรถยนต์ของกลางเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่ารถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์หมายเลขทะเบียน ส.ฎ.00890 จำเลยก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมป้ายทะเบียนรถยนต์นั้นจึงมิใช่ทรัพย์ที่จะต้องถูกริบตามกฎหมาย
ข้อหาฐานปลอมหมายเลขประจำเครื่องยนต์ โจทก์ไม่มีพยานมาสืบว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมหรือร่วมปลอม จึงลงโทษจำเลยฐานปลอมหมายเลขประจำเครื่องยนต์ของกลางไม่ได้ส่วนข้อหาฐานใช้หมายเลขเครื่องยนต์ปลอมนั้นเห็นว่า หมายเลขเครื่องยนต์ 215173 เป็นเลขหมายเครื่องยนต์ของรถยนต์เลขหมายทะเบียน ส.ฎ.00890 ที่จำเลยซื้อจาก อ. โดยลงชื่อ ช. บุตรจำเลยเป็นผู้ครอบครองในใบอนุญาตทะเบียนและระบุว่าเป็นรถยนต์สีเทา จำเลยย่อมทราบเลขเครื่องยนต์และสีรถยนต์ได้ดีเมื่อมีผู้ไปติดต่อซื้อรถยนต์ของกลางจากจำเลย จำเลยนำรถยนต์ของกลางไปพ่นสีเป็นสีฟ้าและนำไปตรวจเครื่องยนต์ ผู้ซื้อนำเงินไปชำระแก่จำเลยแล้วนำรถยนต์ของกลางจากจำเลยไปใช้ จึงเชื่อได้ว่าจำเลยรู้ว่าหมายเลขประจำเครื่องยนต์ 215173 เป็นหมายเลขประจำเครื่องยนต์ปลอม จำเลยจึงมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมแม้คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ง. ซึ่งอยู่ในความดูแลของ จ. แต่ทางพิจารณาปรากฏว่า จำเลยใช้เลขเครื่องยนต์ที่ปลอมลงในรถยนต์คันอื่น ข้อแตกต่างดังกล่าวมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 264 จำคุก 1 ปี จำเลยอายุ 70 ปี ไม่ปรากฏว่าได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ป้ายทะเบียนรถยนต์ไม่ริบ รถยนต์ของกลางคืนเจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ผู้พิพากษา
ไพบูลย์ เพียรรู้จบ
วิถี ปานะบุตร
อำนัคฆ์ คล้ายสังข์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 1347/2541
นำป้ายวงกลมการแสดงเสียภาษี รถอีกคันหนึ่งมาติด รถตนไม่ผิดฐานใช้เอกสารปลอมเพราะเป็นเอกสารที่แท้จริง
....
เปรียบเทียบดูจะเห็นชัดเจนว่าผิดหรือไม่ผิดเพราะอะไร ปลอมเอกสาร แม้จะทำเพียงส่วนหนึ่งส่วนใดก็ผิด เอกสารก็อาจทำทั้งฉบับแล้วก็เป็นปลอมส่วนหนึ่งส่วนใด
ปลอมบางส่วนแล้วก็เป็นปลอมสำเร็จด้วย ตัวอย่าง ปลอมข้อความในบันทึกการขาย โดยปลอมหมายเลขผู้ถือบัตรเครดิตร ที่เรียกเซลสลิป แม้ยังไม่อาจนำไปเรียกเก็บเงินได้เพราะยังไม่ได้กรอกข้อมูลของร้านค้า จำนวนเงิน ก็น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้ถือบัตรแล้ว เป็นการปลอมเอกสารแล้ว

Visitor Statistics
» 1 Online
» 4 Today
» 81 Yesterday
» 4 Week
» 532 Month
» 2297 Year
» 69278 Total
Record: 15081 (20.04.2022)
Free PHP counter