มาตรา 170 | ประมวลกฎหมายอาญา |

 

ประมวลกฎหมาย
อาญา
ภาค ๒ ความผิด

ภาค ๒ ความผิด

ลักษณะ ๓ ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม

หมวด ๑ ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม

หน้าก่อน

 

     มาตรา ๑๗๐  ผู้ใดขัดขืนหมายหรือคำสั่งของศาลให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความหรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารใดในการพิจารณาคดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

* มาตรา ๑๗๐  แก้ไขเพิ่มเติมโดย มาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ.๒๕๖๐ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๓๒ ก หน้า ๕๔ วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๐)

หนังสือประมวลกฎหมายอาญา
คำอธิบาย

    ...

คำพิพากษาศาลฎีกา

  • นาวิน_ขำแป้น_1591689625_5.png
    นาวิน ขำแป้น
    [ทนายความ]
    วันที่เพิ่ม : วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:44:46
    ปรับปรุงล่าสุด : วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:44:46


    กฎหมายที่เกี่ยวข้อง :
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170    มาตรา ๑๗๐
        ผู้ใดขัดขืนหมายหรือคำสั่งของศาลให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความหรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารใดในการพิจารณาคดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


    คำพิพากษาศาลฎีกาที่ : 2046 / 2533
    คำพิพากษาย่อสั้น
    -----------------
    บทบัญญัติ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170 มีความมุ่งหมายจะเอาโทษแก่ผู้ที่ได้ขัดขืนหมายหรือคำสั่งของศาลให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความหรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารใดในการพิจารณาคดีอันเป็นบทบัญญัติถึงการกระทำความผิดต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมโดยเฉพาะแม้โจทก์จะอ้างว่าได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยขัดขืนคำสั่งศาลไม่ส่งเงินที่อายัดไว้ไปยังศาลแพ่ง แต่ก็ไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการกระทำผิดของจำเลย เพราะโจทก์จำเลยมิได้มีสิทธิและหน้าที่ต่อกัน การกระทำของจำเลยไม่เป็นการล่วงสิทธิของโจทก์โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.

    คำพิพากษาย่อยาว
    --------------------
    โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 170, 83, 91
    ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้อง
    โจทก์อุทธรณ์
    ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
    โจทก์ฎีกา
    ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 ได้รับหมายอายัดของศาลแพ่งในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10243/2530 ให้อายัดเงินบำเหน็จและเงินพ้นหน้าที่ของนางเชาวนาวลัย ภูรีปติภาณ จำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าว เพื่อให้ส่งเงินไปที่ศาลแพ่ง แต่จำเลยที่ 1 กลับร่วมกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ขัดขืนคำสั่งศาลไม่ส่งเงินที่อายัดไว้ไปยังศาลแพ่งเพื่อกลั่นแกล้งโจทก์ และขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170 เห็นว่า มาตรานี้บัญญัติไว้ในภาค 2 ความผิดลักษณะ 3 ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม หมวด 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม อันมีความมุ่งหมายจะเอาโทษแก่ผู้ที่ได้ขัดขืนหมายหรือคำสั่งของศาลให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความหรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารใดในการพิจารณาคดี อันเป็นบทบัญญัติถึงการกระทำความผิดต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมโดยเฉพาะ แม้ในคดีนี้โจทก์จะอ้างว่าได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการกระทำผิดของจำเลยเพราะโจทก์จำเลยมิได้มีสิทธิและหน้าที่ต่อกันการกระทำของจำเลยไม่เป็นการล่วงสิทธิของโจทก์ โจทก์มิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้..."
    พิพากษายืน.

    ผู้พิพากษา

    อากาศ บำรุงชีพ
    ถวิล ทองสว่างรัตน์
    พัลลภ พิสิษฐ์สังฆการ


    กดถูกใจเป็นคนแรกสิ!

แสดงความคิดเห็น

    ...

บันทึกส่วนตัว

Visitor Statistics
» 3 Online
» 38 Today
» 452 Yesterday
» 1268 Week
» 2905 Month
» 117108 Year
» 1368513 Total
Record: 10208 (10.06.2023)
Free PHP counter

ทบทวน สรุปย่อ สอบทนายความ ภาคทฤษฎี"
Sheet-สรุป-แบบฝึกหัด-สอบทนายความ

ทบทวน สรุปย่อ สอบทนายความ ภาคปฏิบัติ"