คำร้องขอให้ชนะคดีโดยขาดนัด
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคทฤษฎี รุ่นที่ 63
กำหนดสอบวันที่ 4 สิงหาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคปฏิบัติ รุ่นที่ 61
กำหนดสอบวันที่ 19 พฤษภาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความ สำหรับผู้ผ่านการฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ครั้งที่ 1/2567
กำหนดสอบวันที่ 10 มีนาคม 2567
______________________________
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคทฤษฎี รุ่นที่ 63
กำหนดสอบวันที่ 4 สิงหาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคปฏิบัติ รุ่นที่ 61
กำหนดสอบวันที่ 19 พฤษภาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความ สำหรับผู้ผ่านการฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ครั้งที่ 1/2567
กำหนดสอบวันที่ 10 มีนาคม 2567
______________________________
ตัวอย่างการบรรยาย
ข้อ 1 คดีนี้โจทก์ได้นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยและจำเลยได้รับหมายไว้ด้วยตนเองโดยชอบแล้วเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2557 ซึ่งครบกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายที่จำเลยจะต้องยื่นคำให้การในวันที่ 16 มิถุนายน 2557 แต่จำเลยไม่ยื่นคำให้การตามกำหนด จำเลยจึงขาดนัดยื่นคำให้การ
โจทก์จึงขอประทานกราบเรียนต่อศาลที่เคารพขอศาลได้โปรดมีคำพิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีโดยขาดนัดด้วย
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
การนับระยะเวลายื่นคำให้การ คดีแพ่งสามัญ
: ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหมายด้วยตนเอง หรือมีผู้รับแทน (บุคคลอื่นที่อายุเกิน 20 ปี) หรือทางไปรษณีย์ตอบรับ
: ภายใน 30 (15+15) วันนับแต่วันที่เจ้าหน้าที่ศาลมาปิดหมายไว้หน้าบ้าน ที่ทำงาน ประกาศหนังสือพิมพ์ หรือปิดประกาศหน้าศาล
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79
ถ้าการส่งคำคู่ความหรือเอกสารนั้นไม่สามารถจะทำได้ดังที่บัญญัติไว้ในมาตราก่อน ศาลอาจสั่งให้ส่งโดยวิธีอื่นแทนได้ กล่าวคือปิดคำคู่ความหรือเอกสารไว้ในที่แลเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของคู่ความหรือบุคคลผู้มีชื่อระบุไว้ในคำคู่ความหรือเอกสาร หรือมอบหมายคำคู่ความหรือเอกสารไว้แก่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองในท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานตำรวจ แล้วปิดประกาศแสดงการที่ได้มอบหมายดังกล่าวแล้วนั้นไว้ดังกล่าวมาข้างต้น หรือลงโฆษณาหรือทำวิธีอื่นใดตามที่ศาลเห็นสมควร
การส่งคำคู่ความหรือเอกสารโดยวิธีอื่นแทนนั้น ให้มีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลาสิบห้าวันหรือระยะเวลานานกว่านั้นตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด ได้ล่วงพ้นไปแล้วนับตั้งแต่เวลาที่คำคู่ความหรือเอกสารหรือประกาศแสดงการมอบหมายนั้นได้ปิดไว้ หรือการโฆษณาหรือวิธีอื่นใดตามที่ศาลสั่งนั้นได้ทำหรือได้ตั้งต้นแล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 197
เมื่อจำเลยได้รับหมายเรียกให้ยื่นคำให้การแล้ว จำเลยมิได้ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายหรือตามคำสั่งศาล ให้ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198
ถ้าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ให้โจทก์มีคำขอต่อศาลภายในสิบห้าวันวันนับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลง เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดให้ตนเป็นฝ่ายชนะคดีโดยขาดนัด
ถ้าโจทก์ไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นเสียจากระบบความ
ถ้าโจทก์ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีโดยขาดนัดไปตามมาตรา 198 ทวิ แต่ถ้าศาลมีเหตุสงสัยว่าจำเลยจะไม่ทราบหมายเรียกให้ยื่นคำให้การ ก็ให้ศาลมีคำสั่งให้มีการส่งหมายเรียกใหม่ โดยวิธีส่งหมายธรรมดาหรือโดยวิธีอื่นแทนและจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดตามที่เห็นสมควรเพื่อให้จำเลยได้ทราบหมายเรียกนั้นก็ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ทวิ
ศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี โดยจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การมิได้ เว้นแต่ศาลเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์มีมูลและไม่ขัดต่อกฎหมาย ในการนี้ศาลจะยกขึ้นอ้างโดยลำพังซึ่งข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ได้
เพื่อประโยชน์ในการพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีตามวรรคหนึ่ง ศาลอาจสืบพยานเกี่ยวกับข้ออ้างของโจทก์หรือพยานหลักฐานอื่นไปฝ่ายเดียวตามที่เห็นว่าจำเป็นก็ได้ แต่ในคดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคล สิทธิในครอบครัวหรือคดีพิพาทเกี่ยวด้วยกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ให้ศาลสืบพยานหลักฐานโจทก์ไปฝ่ายเดียว และศาลอาจเรียกพยานหลักฐานอื่นมาสืบได้เองตามที่เห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในการกำหนดจำนวนเงินตามคำขอบังคับของโจทก์ให้ศาลปฏิบัติดังนี้
(1) ในกรณีที่โจทก์มีคำขอบังคับให้จำเลยชำระหนี้เป็นเงินจำนวนแน่นอน ให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ส่งพยานเอกสารตามที่ศาลเห็นว่าจำเป็นแทนการสืบพยาน
(2) ในกรณีที่โจทก์มีคำขอบังคับให้จำเลยชำระหนี้เป็นเงินอันไม่อาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอน ให้ศาลสืบพยานหลักฐานโจทก์ไปฝ่ายเดียว และศาลอาจเรียกพยานหลักฐานอื่นมาสืบได้เองตามที่เห็นว่าจำเป็น
ถ้าจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การไม่มาศาลในวันสืบพยานตามมาตรานี้ มิให้ถือว่าจำเลยนั้นขาดนัดพิจารณา
ถ้าโจทก์ไม่นำพยานหลักฐานมาสืบตามความในมาตรานี้ ภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด ให้ถือว่าคดีของโจทก์ไม่มีมูล และให้ศาลยกฟ้องของโจทก์
กรณีจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แต่โจทก์ “ยื่น” หรือ “ไม่ยื่น” คำร้องขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี ภายใน 15 วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลง ศาลจะ “สั่ง” หรือ “ไม่สั่ง” จำหน่ายคดี จากสารบบความ เป็นการใช้ดุลพินิจของศาล ดังนั้น ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีหรือไม่ก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2509
บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 198 มิได้บังคับให้ศาลจำต้องสั่งจำหน่ายคดีเสมอไป เพียงแต่ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งจำหน่ายคดีเมื่อพ้น 15 วันได้ ฉะนั้น ในกรณีที่ศาลยังมิได้มีคำสั่งจำหน่ายคดี แม้โจทก์จะยื่นคำขอเมื่อพ้น 15 วันศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การได้ อ้างฎีกาที่ 1464/2495
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคทฤษฎี รุ่นที่ 63
กำหนดสอบวันที่ 4 สิงหาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความภาคปฏิบัติ รุ่นที่ 61
กำหนดสอบวันที่ 19 พฤษภาคม 2567
______________________________
นับถอยหลัง สอบทนายความ สำหรับผู้ผ่านการฝึกหัดงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ครั้งที่ 1/2567
กำหนดสอบวันที่ 10 มีนาคม 2567
______________________________
[…] […]
ถ้ามีผู้อ้างว่าเป็นทนายความ มาบอกว่า ไม่ต้องไปศาล เดี๋ยวดีเอง อย่าเชื่อเด็ดขาด …. การไปศาล เป็นผลดีต่อตัวความมากที่สุด